คลายเครียด ไร้โรคจร้า

วันที่ฉันกลัว

ข้อความ

รักจงเจริญ

วันอังคารที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2553

7 ผัก – ผลไม้ ป้องกันโรคกระดูก















7 ผัก – ผลไม้ ป้องกันโรคกระดูก
เราคงรู้กันดีอยู่แล้วว่าการรับประทานเนื้อสัตว์ ถือเป็นแหล่งสารอาหารสำคัญ ทั้งโปรตีน ไขมัน วิตามิน และเกลือแร่ และถ้าพูดเกลือแร่แล้ว คงนึกถึงแหล่งของสารอาหารชนิดนี้อย่าง นม ถั่วเมล็ดแห้ง เต้าหู้ถั่วเหลือง นมถั่วเหลือง หรือแม้แต่ปลาที่กินได้ทั้งกระดูก แต่ตอนนี้ คนที่ไม่นิยมทานเนื้อคงคลายความกังวลไปได้บ้าง เพราะมีผัก-ผลไม้บางชนิดที่ให้แคลเซียมสูงประกอบกับแร่ธาตุบางตัวที่ไปช่วยเสริมการทำงานของแคลเซียมได้ดียิ่งขึ้นร่างกายต้องการแคลเซียมมากขนาดไหนจริง ๆ แล้วร่างกายคนเราต้องแคลเซียมวันละ 800 – 1200 มิลลิกรัม แม้ว่าเราได้แคลเซียมมากจนเพียงพอกับความต้องการ แต่แคลเซียมอย่างเดียวคงไม่เพียงพอต่อกระบวนการเสริมสร้างกระดูกนั้นต้องอาศัยปัจจัยหลาย ๆ อย่างประกอบกันด้วย เช่น ฟอสฟอรัสที่ช่วยส่งเสริมแคลเซียมในการสร้างความหนาแน่นให้กับกระดูก วิตามินดีจากแสงแดดอ่อน ๆ ที่จะช่วยในการดูดแคลเซียม วิตามินเอ มีบทบาทสำคัญเกี่ยวกับสร้างกระดูกและฟัน เป็นต้น
นอกจากนี้ยังต้องหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะช่วยเสริมสร้างให้กระดูกแข็งแรงไม่ผุกร่อนได้ง่ายผักและผลไม้ ก็อุดมด้วยแคลเซียมด้วยเช่นกันมาดูกันว่ามีผักผลไม่ชนิดใด ที่เราสามารถเลือกทานเพื่อช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรงกันบ้าง
1.กะหล่ำปลี – กะหล่ำปลีจีน นอกจากจะอุดมด้วยแคลเซียมแล้ว ยังมีฟอสฟอรัส วิตามินเอ ซี กรดโฟลิค เหล็ก เบต้าแคโรทีน และโพแทสเซียมอีกด้วย
2.กล้วย เป็นผลไม้ที่ให้พลังงานสูง มีทั้งแคลเซียมและโพแทสเซียมที่ช่วยป้องกันการขาดแคลนแคลเซียมในร่างกายได้ นอกจากนี้ยังมีวิตามินครบทั้ง วิตามินบี 1 ป้องกันโรคเหน็บชา บี 2 ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของร่างกายตามปกติ วิตามินซี ป้องกันโรคหวัด โรคเลือดออกตามไรฟัน และยังมีสารอาหารอื่น ๆ อีกมากมาย
3.บลอคโคลี อุดมด้วยแคลเซียม แมงกานีส โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม เหล็ก ซึ่งเป็นสารสำคัญในการสร้างกระดูกให้แข็งแรง นอกจากนี้ยังประกอบไปด้วยวิตามินเข้มข้นอย่าง วิตามินเอ ซี และเค ซึ่งให้ผลในการต่อต้านโรคมะเร็ง และช่วยให้เอสโตรเจนส่วนเกินในร่างกายลดน้อยลงได้
4.ผลกีวี ผลไม้รสเปรี้ยวก็ยังอุดมด้วยแคลเซียมเช่นเดียวกัน และยังมีวิตามินซี ลูทีน และแคโรทีนอยด์ที่ทำให้ลดการเป็นโรคหัวใจลงด้วย
5.ผักคะน้า ผักอีก 1 ชนิดที่เป็นแหล่งแคลเซียมสูง ช่วยป้องกันโรคกระดูกบางได้ ร่างกายสามารถดูดซึมแคลเซียมได้ไม่น้อยกว่านม การทานคะน้าจะช่วยสร้างเสริมกระดูกให้แข็งแรง เพราะมีสาระสำคัญอย่าง ซันโฟราเฟน สารผลึกอินโดลส์ กรดธรรมชาติโฟลิก และกำมะถัน
6.ใบยอ ผักพื้นบ้านใกล้ตัวคนไทยที่ช่วยเสริมสร้างกระดูกชั้นยอด เนื่องจากมีวิตามินเอในรูปเบต้าแคโรทีนสูงมาก นอกจากนี้ยังอุดมด้วยคุณาทางอาหารมากมายโดยเฉพาะมีแคลเซียมสูงถึง 469 มิลลิกรัม ต่อใบยอน้ำหนัก 100 กรัม การทานใบยอสุกเพียง 1 ถ้วย ก็ได้แคลเซียมเกือบครบตามที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันแล้ว
7.หอมหัวใหญ่ อุดมไปด้วยธาตุแคลเซียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม กำมะถัน ซิลิเนียม เบต้าแคโรทีน กรดโฟลิก ฟลาโวนอยด์ และเควอเซทิน ที่ช่วยยับยั้งความเสื่อมของกระดูก การทานหัวหอมใหญ่วันละ 1 กรัม ก็เพียงพอที่จะเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรงได้แล้ว
อีกหนึ่งทางเลือกของผู้ที่รักการทานผักและผลไม้ และผู้ที่ไม่อยากทานแคลเซียมจากสารสังเคราะห์ นมถั่วเหลือง หรือปลาเล็กปลาน้อย ก็สามารถหันมาทานผักผลไม้แทนกันได้

มะเร็งเต้านม



























มะเร็งเต้านม
โรคมะเร็งเต้านมเกิดจากเนื้อเยื่อของเต้านมมีการเปลี่ยนแปลงเป็นเซลล์มะเร็งซึ่งอาจจะกิดเป็นมะเร็งเต้านมที่เกิดกับท่อน้ำนม หรือมะเร็งเต้านมที่เกิดกับต่อมน้ำนม มะเร็งเต้านมเป็นมะเร็งที่พบได้บ่อย ดังนั้นท่านผู้อ่านที่เป็นหญิงหรือชายควรจะตรวจเต้านมตัวเอง

มะเร็งคืออะไร
ร่างกายของคนเราประกอบไปด้วยเซลล์จำนวนมาก โดยมีการแบ่งตัวตามความต้องการของร่างกาย เช่นเซลล์เม็ดเลือดแดงจะมีการผลิตเพิ่มเมื่อร่างกายเราเสียเลือด ผลิตเม็ดเลือดขาวเพิ่มเมื่อร่างกายเราติดเชื้อ แต่เซลล์ที่สร้างโดยที่ร่างกายเราไม่สามารถควบคุมได้เราเรียกว่าเนื้องอก Tumor ซึ่งแบ่งเป็น Benign และ Malignant

Benign tumor

คือเนื้องอกที่ไม่ใช่มะเร็ง เนื้องอกจะไม่แพร่กระจายไปยังส่วนอื่นของร่างกาย ตัดออกแล้วจะไม่เป็นซ้ำ เช่น fibroadenoma,cyst,fibrocystic disease

Malignant tumor

เซลล์จะแบ่งตัวไม่หยุด ร่างกายเราไม่สามารถควบคุมการแบ่งตัว เซลล์จะแพร่กระจายไปยังอวัยวะใกล้เคียงและแพร่ไปยังอวัยวะอื่นๆ โดยอาจจะไปตามกระแสเลือด หรือทางน้ำเหลือง เราเรียกการแพร่กระจายว่า Metastasis

อาการของมะเร็งเต้านม

ผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งเต้านมมักจะไม่มีอาการอะไร โดยมากมักจะรู้ได้โดย
•คลำได้ก้อนที่เต้านมหรือรักแร้
•มีการเปลี่ยนแปลงขนาดของเต้านม
•มีน้ำไหลออกจากหัวนม
•เจ็บ หรือหัวนมถูกดึงรั้ง
•ผิวเต้านมจะเหมือนเปลือกส้ม
สาเหตุของมะเร็งเต้านมยังไม่เป็นที่แน่ชัด แต่การปฎิบัติตัวที่ดีจะลดการเกิดมะเร็งเต้านม
•เปลี่ยนแปลงอาหาร เช่นลดพวกเนื้อสัตว์ลง ลดอาหารไขมัน
•เลือกรับประทานอาหารผักหรือผลไม้
•ควบคุมน้ำหนักมิให้อ้วน
•ออกกำลังกายสัปดาห์ละ 5 วันวันละ 30 นาที
•งดบุหรี่ และแอลกอฮอลล์

ความสำคัญและประโยชน์ของการออกกำลังกาย

ความสำคัญและประโยชน์ของการออกกำลังกาย

ร่างกายมนุษย์ถูกสร้างขึ้นมาให้มีการเคลื่อนไหว เพื่อความเจริญเติบโตและรักษาสภาพการทำงานที่ดีเอาไว้ การเคลื่อนไหวน้อยหรือไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย ไม่เพียงแต่จะทำให้เกิดความเสื่อมโทรมของสมรรถภาพทางกายหรือสุขภาพ แต่ยังเป็นสาเหตุของความผิดปกติของร่างกายและโรคร้ายหลายชนิดที่ป้องกันได้ ซึ่งเป็นโรคที่เป็นปัญหาทางการแพทย์ที่พบมากในปัจจุบัน ในทางการแพทย์ การออกกำลังกายอาจเปรียบได้กับยาสารพัดประโยชน์ เพราะใช้เป็นยาบำรุงก็ได้ เป็นยาป้องกันก็ได้ และเป็นยาบำบัดรักษาหรือฟื้นฟูสภาพร่างกายก็ได้ แต่ขึ้นชื่อว่ายาแล้วไม่ว่าจะวิเศษเพียงไรก็จะต้องใช้ด้วยขนาดหรือปริมาณที่เหมาะสมกับคนแต่ละคน การใช้โดยไม่คำนึงถึงขนาดหรือปริมาณที่เหมาะสม นอกจากอาจไม่ได้ผลแล้วยังอาจเกิดโทษจากยาได้ด้วย ดังนั้นถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ควรใช้ การออกกำลังกายให้เกิดประโยชน์แก่สุขภาพคือ การจัดชนิดของความหนัก ความนาน และความบ่อยของการออกกำลังกายให้เหมาะสมกับเพศ วัย สภาพร่างกาย สภาพแวดล้อม และจุดประสงค์ของแต่ละคน เปรียบได้กับการใช้ยาซึ่งถ้าหากสามารถจัดได้เหมาะสมก็จะให้คุณประโยชน์ดังต่อไปนี้ การเจริญเติบโต การออกกำลังกายจัดเป็นปัจจัยสำคัญอันหนึ่งที่มีผลกระทบต่อการเจริญเติบโต เด็กที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายแต่มีอาหารกินอุดมสมบูรณ์ อาจมีส่วนสูงและน้ำหนักตัวมากกว่าเด็กในวัยเดียวกันโดยเฉลี่ย แต่ส่วนใหญ่แล้วจะมีไขมันมากเกินไป มีกระดูกเล็ก หัวใจมีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับน้ำหนักตัวและรูปร่างอาจผิดปกติได้ เช่น เข่าชิดกัน อ้วนแบบฉุ เป็นต้น ซึ่งถือว่าเป็นการเจริญเติบโตที่ผิดปกติ ตรงข้ามกับเด็กที่ออกกำลังกายถูกต้องสม่ำเสมอ ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนที่เกี่ยวกับการเจริญเติบโตอย่างถูกส่วน จึงกระตุ้นให้อวัยวะต่าง ๆ เจริญขึ้นพร้อมกันไปทั้งขนาด รูปร่าง และหน้าที่การทำงาน และเมื่อประกอบกับผลของการออกกำลังกายที่ทำให้เจริญอาหาร การย่อยอาหารและการขับถ่ายดี เด็กที่ออกกำลังกายอย่างถูกต้องและสม่ำเสมอจึงมีการเจริญเติบโตดีกว่าเด็กที่ขาดการออกกำลังกาย รูปร่างและทรวดทรง ดังได้กล่าวแล้วว่าการออกกำลังกายเป็นได้ทั้งยาป้องกันและยารักษาโรค การเสียทรวดทรงในช่วงการเจริญเติบโต ย่อมป้องกันได้ด้วยการออกกำลังกาย แต่เมื่อ เติบโตเต็มที่แล้วยังขาดการออกกำลังกาย ก็จะทำให้ทรวดทรงเสียไปได้ เช่น ตัวเอียง หลังงอ พุงป่อง ซึ่งทำให้เสียบุคลิกภาพได้อย่างมาก ในระยะนี้ ถ้ากลับมาออกกำลังกายอย่างถูกต้อง เป็นประจำสม่ำเสมอยังสามารถแก้ไขให้ทรวดทรงกลับดีขึ้นมาได้ แต่การแก้ไขบางอย่างอาจต้องใช้เวลานานเป็นเดือน เป็นปี แต่บางอย่างอาจเห็นผลภายในเวลาไม่ถึง 1 เดือน เช่น พุงป่อง การบริหารกายเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหน้าท้องเพียง 2 สัปดาห์ ก็ทำให้กล้ามเนื้อหน้าท้องมีความตึงตัวเพิ่มขึ้นจนกระชับอวัยวะภายในไว้ไม่ให้ดันออกมาเห็นพุงป่องได้ สุขภาพทั่วไป เป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปว่า การออกกำลังกายมีประโยชน์ต่อสุขภาพถึงแม้ว่าจะไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าการออกกำลังกายจะสามารถเพิ่มภูมิต้านทานโรคที่เกิดจากการติดเชื้อได้ แต่มีหลักฐานที่พบบ่อยครั้งว่า เมื่อนักกีฬาเกิดการเจ็บป่วยจากการติดเชื้อจะสามารถหายได้เร็วกว่า และมีโรคแทรกซ้อนน้อยกว่า ข้อที่ทำให้เชื่อได้แน่ว่าผู้ที่ออกกำลังกายย่อมมีสุขภาพดีกว่าผู้ขาดการออกกำลังกาย คือ การที่อวัยวะต่าง ๆ มีการพัฒนาทั้งขนาด รูปร่าง และหน้าที่การทำงาน โอกาสของการเกิดโรคที่ไม่ใช่โรคติดเชื้อ เช่น โรคเสื่อมสมรรถภาพในการทำงานของอวัยวะจึงมีน้อยกว่า สมรรถภาพทางกาย ถ้าจัดการออกกำลังกายเป็นยาบำรุง การออกกำลังกายถือเป็นยาบำรุงเพียงอย่างเดียวที่สามารถเพิ่มสมรรถภาพทางกายได้ เพราะไม่มียาใด ๆ ที่สามารถทำให้ร่างกายมีสมรรถภาพเพิ่มขึ้นได้อย่างแท้จริงและถาวร ยาบางอย่างอาจทำให้ผู้ใช้สามารถทนทำงานบางอย่างได้นานกว่าปกติ แต่เมื่อทำไปแล้วร่างกายก็จะอ่อนเพลียกว่าปกติจนต้องพักผ่อนนานกว่าปกติ หรือร่างกาย ทรุดโทรมลงไป ในทางปฏิบัติเราสามารถเสริมสร้างสมรรถภาพทางกายทุก ๆ ด้านได้ เช่น ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ความอ่อนตัว ความอดทนของกล้ามเนื้อ ความอดทนของระบบไหลเวียนเลือด ความคล่องตัว ฯลฯ การป้องกันโรค การออกกำลังกายสามารถป้องกันโรคได้หลายชนิด โดยเฉพาะโรคที่เกิดจากการเสื่อมสภาพของอวัยวะอันเนื่องจากการมีอายุมากขึ้น ซึ่งประกอบกับปัจจัยอื่น ๆ ในชีวิตประจำวันเช่น การกินอาหารมากเกินความจำเป็น ความเคร่งเครียด การสูบบุหรี่มาก หรือกรรมพันธุ์ โรคเหล่านี้ได้แก่ โรคประสาทเสียดุลยภาพ หลอดเลือดหัวใจเสื่อมสภาพ ความดันเลือดสูง โรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคข้อต่อเสื่อมสภาพ เป็นต้น ผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำมีโอกาสเกิดโรคเหล่านี้ได้ช้ากว่าผู้ที่ขาดการออกกำลังกาย หรืออาจไม่เกิดขึ้นเลยจนชั่วชีวิต การออกกำลังกายจึงช่วยชะลอชรา การรักษาโรคและฟื้นฟูสภาพ โรคต่าง ๆ หากเกิดขึ้นแล้ว การเลือกวิธีออกกำลังกายที่เหมาะสมจัดเป็นวิธีรักษาและฟื้นฟูสภาพที่สำคัญในปัจจุบัน แต่ในการจัดการออกกำลังกายที่เหมาะสมมีปัญหามาก เพราะบางครั้งโรคกำเริบรุนแรงจนการออกกำลังกายแม้เพียงเบา ๆ ก็เป็นข้อห้าม ในกรณีดังกล่าว การควบคุมโดยใกล้ชิดจากแพทย์ผู้ทำการรักษาและการตรวจสอบสภาพร่างกายโดยละเอียดเป็นระยะเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง